tag:blogger.com,1999:blog-63378853268985242782024-02-08T06:05:13.042-08:00คอมพิวเตอร์เพื่อการศึกษาjintanahttp://www.blogger.com/profile/07323185817331006647noreply@blogger.comBlogger1125tag:blogger.com,1999:blog-6337885326898524278.post-59130190047572608672009-10-16T00:10:00.000-07:002009-10-16T00:11:27.482-07:00คอมพิวเตอร์เพื่อการศึกษา1. ความหมายของคอมพิวเตอร์เพื่อการศึกษา<br /><br />ปัจจุบันมีคำศัพท์ที่เกี่ยวข้องระหว่างคอมพิวเตอร์และการศึกษาคือ "คอมพิวเตอร์ศึกษา" (Computer Education) หมายถึง <br />การศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับศาสตร์ด้านคอมพิวเตอร์ เช่น การเขียนภาษาโปรแกรมต่าง ๆ การผลิต การใช้ การบำรุงรักษา<br />เครื่องคอมพิวเตอร์ (Hardware) และซอฟแวร์ (Software) รวมถึงการศึกษาวิธีการใช้ระบบคอมพิวเตอร์เพื่อกิจการด้านต่าง ๆ<br />สรุปแล้วการใช้คอมพิวเตอร์เพื่อการศึกษา คือ การนำคอมพิวเตอร์มาใช้ในกิจการด้านการศึกษา ประกอบด้วยงานหลัก 4 ระบบ<br />1. คอมพิวเตอร์เพื่อบริหารการศึกษา (Computer for Education Administration) เป็นการนำคอมพิวเตอร์มาใช้ในการบริหารงานด้านต่าง ๆ เช่น การบริหารงานด้านการศึกษาประกอบด้วยครู ผู้เรียน และเจ้าหน้าที่บุคลากรที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ เป็นต้น<br />2. คอมพิวเตอร์เพื่อบริการการศึกษา (Computer for Education Service) หมายถึง การบริการการศึกษา ด้านต่าง ๆ เช่น การบริการสารสนเทศการศึกษา<br />3. คอมพิวเตอร์เพื่อการเรียนการสอน (Computer Assisted Instruction) หมายถึง การนำคอมพิวเตอร์มาช่วยในกิจกรรมการเรียนการสอนในเนื้อหาวิชาต่างๆ<br />4. การรู้คอมพิวเตอร์ (Computer Literacy) เป็นการศึกษา การสอน/การฝึกอบรมเกี่ยวกับความรู้ความสามารถ และทักษะการใช้คอมพิวเตอร์โดนตรงรวมทั้งการประยุกต์ใช้ และเจตคติต่อคอมพิวเตอร์และ ICT <br /><br /><br />ที่มา <a href="http://vod.msu.ac.th">http://vod.msu.ac.th</a> รศ.ดร.ไชยยศ เรืองสุวรรณ<br /><br /><br /><br />2. วัตถุประสงค์ของการใช้คอมพิวเตอร์เพื่อการศึกษา<br /><br />ในการนำคอมพิวเตอร์มาใช้ในการศึกษาโดยทั่วไปมี 3 ลักษณะคือ<br />1.ใช้เพื่อทบทวนบทเรียน<br />2.ใช้เป็นเครื่องมือในการเรียน<br />3.ใช้เป็นเครื่องมือฝึก<br /><br />ที่มา<a href="http://vod.msu.ac.th"> http://vod.msu.ac.th </a>รศ.ดร.ไชยยศ เรืองสุวรรณ<br /><br /><br /><br />3. ส่วนประกอบของคอมพิวเตอร์<br /><br />ส่วนประกอบของคอมพิวเตอร์<br />ส่วนประกอบทั่วไปของคอมพิวเตอร์จะประกอบด้วยส่วนต่างๆ ดังนี้<br />1. หน่วยรับข้อมูล input Unit เป็นส่วนที่ทำหน้าที่รับข้อมูลเข้าสู่หน่วยประมวลผลกลาง (CPU)<br />เพื่อทำการประมวลต่อไป<br />2. หน่วยประมวลผลกลาง หรือ CPU (Central Processing Unit) ทำหน้าที่ในการประมวลผลข้อมูล<br />เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ และทำหน้าที่ควบคุมการทำงานต่างภายในคอมพิวเตอร์<br />3. หน่วยแสดงผล Output Unit เป็นหน่วยที่แสดงผลลัพธ์จากการประมวลผลข้อมูล ซึ่งมีรูปแบบการแสดง<br />ผลอยู่ 2 แบบ คือ แบบที่สามารถเก็บไว้ดูภายหลังได้ และแบบที่ไม่มีสำเนาเก็บไว้<br /><br />ที่มา <a href="http://www.obec.go.th">http://www.obec.go.th </a>ครูสมเกียรติ แสนป้อ<br /><br /><br />4. คอมพิวเตอร์ช่วยสอน<br /><br />4.1. คอมพิวเตอร์ช่วยสอน หมายถึง <br />การนำคอมพิวเตอร์มาใช้เป็นเครื่องมือในการเรียนการสอน โดยที่เนื้อหาวิชา แบบฝึกหัด และแบบทดสอบจะถูกพัฒนาขึ้นในรูปของโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ลักษณะสำคัญของเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ช่วยสอน คือ<br />1) สามารถเรียนแบบการสอนได้ และ<br />2) มีสมรรถภาพในการรวบรวมสารสนเทศและข้อมูลต่าง ๆ <br /><br />4.2. หลักการของคอมพิวเตอร์ช่วยสอน ประกอบด้วย<br /><br />1. ใช้เป็นรายบุคคล (Individualized) ไมโครคอมพิวเตอร์ส่วนใหญ่ออกแบบเพื่อใช้ส่วนบุคคล นับว่าเป็นเครื่องมือที่ใช้ได้ผลดีที่สุด<br /><br />2. มีการตอบโต้อย่างทันที (Immediate Feedback)<br /><br />3. เป็นกระบวนการติดตามความก้าวหน้าของผู้เรียน (Track Learners Process)<br /><br />4. ปรับให้ทันสมัยได้ง่าย (Each of Updating)<br /><br />5. โปรแกรมคอมพิวเตอร์ช่วยสอน ไม่สามารถทำงานได้ทุกอย่างเหมือนคน ด้วยเหตุนี้ จึงนำมาเป็นส่วนนึ่งหรือช่วยสอนเท่านั้น การแก้ปัญหาเหล่านี้ขึ้นอยู่กับการเขียนโปรแกรมให้สอดคล้องกับหลักจิตวิทยา<br /><br />6. การเขียนโปรแกรมที่ดีต้องอาศัยความชำนาญอย่างมาก<br /><br /><br />ที่มา <a href="http://vod.msu.ac.th">http://vod.msu.ac.th </a>รศ.ดร.ไชยยศ เรืองสุวรรณ<br /><br />5. การวัดประเมินผลคอมพิวเตอร์เพื่อการศึกษา<br /><br />ในการวัดประเมินบทเรียน มีขั้นตอนในการพิจารณาอยู่ 3 ขั้น คือ<br />1. การประยุกต์ใช้ <br />1.1 บทเรียนนี้ออกแบบและผลิตขึ้นมาเพื่อใช้ในหลักสูตร<br />วิชาอะไรและในหลักสูตรนี้ ผู้เรียนจะได้รับประโยชน์พิเศษเฉพาะ<br />จากบทเรียนนี้อย่างไรบ้าง<br />1.2 บทเรียนนี้บทบาททางการศึกษาอย่างไรบ้าง<br />เป็นบทเรียนที่ใช้ในการเรียนการสอนโดยตรงหรือเป็นบทเรียนที่<br />ใช้ประกอบหรือเสริมการเรียนเท่านั้น ถ้าบทเรียนนี้<br />มีบทบาทเพียงเพื่อเสริมการเรียนการสอน มีสื่อหรือ<br />กิจกรรมการสอนอื่นที่ออกแบบไว้ให้บทเรียนสนับสนุนหรือไม่<br />1.3 บทเรียนนี้ออกแบบมาสำหรับผู้เรียนนะดับใด<br />และผู้เรียนควรมีความรู้เบื้องต้นระดับใดและอย่างไรบ้าง<br />1.4 บทเรียนนี้ควรใช้กับเครื่องคอมพิวเตอร์แบบใด<br />2. การใช้โปรแกรม<br />2.1 ประสิทธิผลทางการเรียนการสอน การที่จะวัด<br />ประสิทธิผลทางการเรียนการสอนของบทเรียนนั้นเราจะต้อง<br />1) วิเคราะห์คุณลักษณะของบทเรียน<br />2) วิเคราะห์แนวปฏิบัติของครูในการใช้บทเรียนนั้น<br />3) ทบทวนประสิทธิผลของบทเรียนที่มีต่อการ<br />เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้เรียนตามจุดประสงค์การเรียน<br />2.2 การบำรุงรักษาบทเรียน ในการประเมินเกี่ยวกับ<br />การบำรุงรักษาบทเรียนนี้จะเน้นในเรื่องการปรับปรุงบทเรียน<br />ให้เข้ากับสภาพการสอน ว่าทำได้หรือไม่เพียงใด<br />ทั้งนี้เนื่องจาก มีบางบทเรียนที่เปิดโอกาสให้ครูดัดแปลงเพิ่มเติม<br />ตัดบางส่วนออกหรือจัดลำดับใหม่ได้ เพื่อให้ครูสามารถดัดแปลง<br />บทเรียน ให้สอดคล้องกับความสามารถของผู้เรียนบางคนได้<br />2.3 ความสะดวก ความสะดวกของบทเรียนในที่นี้หมายถึง<br />การที่เราสามารถใช้บทเรียนกับเครื่องคอมพิวเตอร์รุ่นต่างๆ ได้<br />เช่น เล่นได้ทั้งเครื่อง XTAT และหรือจอภาพสี<br />3. ราคา<br />การเปรียบเทียบราคาของบทเรียน อาจจะพิจารณาได้ยาก<br />เพราะมีข้อจำกัดเช่น เรื่องเวลา ความต้องการในการใช้บทเรียน<br />และประสบการณ์ของผู้ใช้เป็นต้น นอกจากนั้น การผลิตบทเรียน<br />เรื่องเดียวกันจากผู้ผลิตหลายๆ แหล่งนั้นมีน้อย ดังนั้น การพิจารณาเปรียบเทียบในเรื่องราคาของบทเรียนจึงอยู่ในดุลยพินิจของผู้ที่ประสงค์<br />จะใช้บทเรียนนั้นๆพิจารณาเอง<br /><br />ที่มา<a href="http://vod.msu.ac.th"> http://vod.msu.ac.th</a> รศ.ดร.ไชยยศ เรืองสุวรรณ<br /><br />เจ้าของบทความ<br /><br /><a href="http://apportion.blogspot.com/2007/08/blog-post.html">http://apportion.blogspot.com/2007/08/blog-post.html </a>jintanahttp://www.blogger.com/profile/07323185817331006647noreply@blogger.com0